ม.วลัยลักษณ์ จับมือ สทน. เอ็มโอยูด้านสหกิจศึกษา พร้อมพัฒนางานวิชาการร่วมกัน

วันนี้ (2เมษายน2564) ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) และ รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) (สทน.) ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการปฏิบัติสหกิจศึกษาและการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการ (COOPERATIVE AND WORK INTEGRATED EDUCATION: CWIE) ระหว่าง มวล. กับ สทน. โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ผดุงศักดิ์ สุขสอาด รองอธิการบดีฝ่ายกิจการสภามหาวิทยาลัย มวล. และ ดร.พิริยาธร สุวรรณมาลา รองผู้อำนวยการ สทน. ลงนามเป็นพยาน ท่ามกลางผู้บริหารและบุคลากรของทั้ง 2 สถาบันร่วมกันเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 อาคาร 9 สทน.สำนักงานสาขาจตุจักร กรุงเทพมหานคร
การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมให้นักศึกษาที่ กำลังจะสำเร็จการศึกษามีประสบการณ์และความพร้อมในการปฏิบัติงานจริงก่อนสำเร็จการศึกษา การสนับสนุนวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ในการบรรยายให้ความรู้ด้านต่างๆ ระหว่างกัน ความร่วมมือระหว่างกันในด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย เพื่อให้การจัดการศึกษามีคุณภาพและสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม เช่น การทำโครงงาน งานวิจัย การฝึกอบรม และการจัดกิจกรรมให้บริการทางวิชาการวิชาชีพ
ข้อตกลงดังกล่าวมีระยะเวลา 2 ปี โดยมีกิจกรรมความร่วมมือในด้านต่างๆดังนี้ 1)มหาวิทยาลัยตกลงจะดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาที่มีความสนใจในเทคโนโลยีนิวเคลียร์หรือส่วนงาน ที่อยู่ในขอบเขตภารกิจของ สทน. และในกรณีที่ให้นักศึกษาปฏิบัติสหกิจศึกษามหาวิทยาลัยตกลงที่จะใช้ หลักเกณฑ์ที่ได้มาตรฐานในการประเมินการปฏิบัติสหกิจศึกษา และประกาศหลักเกณฑ์นั้นให้ทราบด้วยกันทั้งสอง ฝ่าย 2) สทน. จะกำหนดงานคุณภาพแก่นักศึกษา และพี่เลี้ยงดูแลนักศึกษา สนับสนุนการนิเทศงาน และให้ คำปรึกษานักศึกษาระหว่างการปฏิบัติงาน การจัดทำโครงงาน หรือ การวิจัยและการบริการวิชาการระหว่างกัน 3) สทน. จัดทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของนักศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิด ประโยชน์สูงสุด สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมความพร้อมด้านอาชีพ แก่นักศึกษาที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา การเข้าเยี่ยมชม ศึกษาดูงาน 4) มหาวิทยาลัยและ สทน. จัดโครงการความร่วมมือกิจกรรมด้านอื่นๆ ที่ สทน. และ มหาวิทยาลัย เห็นสมควร




